จับกุมพรานล่าช้างแก่งกระจาน

รวบแก๊งฆ่าช้างป่าแก่งกระจาน พร้อมของกลางอาวุธปืนเอเค 47 สารภาพรับจ้างจากนายทุนได้ค่าเหนื่อย 9 หมื่น โดยสั่งตัดงวง เชือดเอาอวัยวะเพศ ด้านตำรวจเตรียมออกหมายจับและเร่งติดตามจับกุมพรรคพวกที่ยังหลบหนีมาดำเนิน คดีต่อไป

ขอขอบคุณข่าวจาก www.manager.co.th

พรานล่าช้างแก่งกระจาน

ช้างล้มที่แก่งกระจาน

 วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 และพล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าช้างป่าแก่งกระจาน 2 ราย คือนายลูกแก้ว จันทร์อุปถัมภ์ อายุ 28 ปี ชาวจ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ จ.60/2555 ลงวันที่ 17 ก.พ.2555 และนายจันทร์ กัวพู้ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 280 หมู่ 6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่จ.58/2555 ลงวันที่ 17 ก.พ.2555 พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนเอเค 47 จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุน 1 ซอง และกระสุนปืน 157 นัด อาวุธปืนคาไบ 1 กระบอก ซองกระสุนปืน 1 ซอง และกระสุนปืน 32 นัด อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเอสเคจี จำนวนว 1 เครื่อง

พรานล่าช้างแก่งกระจาน

จับกุมพรานล่าช้างแก่งกระจาน

     พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติรับแจ้งพบซากช้างป่านอนตายอยู่ในเขตป่าสงวนแห่ง ชาติ “ป่ายางน้ำกลัดเหนือ- ป่ายางน้ำกลัดใต้” ในท้องหมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซากช้างนอนตระแคงซ้าย บริเวณกะโหลกด้านหน้าถูกตัดพบชิ้นส่วนทิ้งอยู่ห่างจากตัวประมาณ 15 เมตร งวงถูกตัดบริเวณปลาย บริเวณอวัยวะเพศมีรอยถูกเฉือน สันนิษฐานว่าเป็นช้างเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี สภาพซากเริ่มเน่า ตายมาแล้วประมาณ 7 วัน ต่อมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานไว้

       ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับนายวิทูร เรืองวรเศรษฐ์ ชาวราชบุรี อาชีพค้าของป่า เพราะวันเกิดเหตุเป็นคนขับรถมารับของกลาง

       ด้านพล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า หลังได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ให้ดูแลเรื่องนี้ จึงสั่งการให้พล.ต.ท.จรัมพร นำตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบซากช้างอีก ซึ่งผลการตรวจโดยละเอียดพบหัวกระสุนปืน เอเค 47 ในซากช้าง 1 หัว จึงยึดไว้เป็นของกลาง โดยได้เรียกประชุมทีมสืบสวนและเร่งรัดการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งผลการสืบสวนอย่างต่อเนื่องจึงทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ร่วมกันยิงช้างดังกล่าว จึงขออนุมัติหมายจับก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ นอกจากนี้ทราบอีกว่า มีผู้ต้องหาอีกรายที่หลบหนีการจับกุมทราบชื่อ นายสมพร จอกาย

       ด้านพล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (ช้างป่า) โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(งา งวง อวัยวะเพศ และปลายหางช้าง) โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาต ให้ได้ไว้ในความครอบครอง ,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควรจำเป็นเร่งด่วนตามควร แก่พฤติการ

       ด้าน พล.ต.ท.หาญพล กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง โดยนายจันทร์ ใช้อาวุธปืนคาไบน์ยิงช้าง ส่วนนายสมพร ใช้อาวุธปืน เอเค 47 ยิง ส่วนนายลูกแก้วถือปืนลูกซองไปด้วยแต่ไม่ได้ใช้ยิง ซึ่งหลังจากช้างตายแล้วได้ร่วมกันตัดอวัยวะของช้างไปขายให้กับนายทุนผู้สั่ง ซื้อ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมต่อไป

       จากการสอบสวน นายจันทร์ รับสารภาพว่านายลูกแก้ว เป็นผู้นำทาง ตนกับนายสมพร จอกาย ซึ่งยังหลบหนี ติดตามช้างป่ากว่า 4 ชั่วโมง จนสบโอกาส นายสมพรใช้ปืนอาก้ายิงที่หัวช้าง 1 นัด ส่วนตนใช้ปืนคาไบยิงซ้ำ โดยช้างหนีเข้าป่า ซึ่งต้องตามลอยเลือดถึง 2 วันจนพบ ซึ่งหลังช้างล้มได้ตัดอวัยวะให้กับนายทุนได้ค่าจ้าง 9 หมื่นบาท โดยได้ส่วนแบ่ง 22,000 บาท จากการชักชวนของนายสมพร