ชาวเวียดนามลักลอบทำไม้กฤษณา

ไม้กฤษณาเป็นที่ต้องการของแก็งค์ทำไม้ชาวเวียดนามจากจังหวัดกวางบินห์

ไม้กฤษณาเป็นที่ต้องการของแก็งค์ทำไม้ชาวเวียดนามจากจังหวัดกวางบินห์

ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมามีชาวเวียดนามจากจังหวัดกวางบินห์ เข้ามาลักลอบตัดไม้กฤษณาและถูกจับได้หลายครั้ง โดยผ่านแดนเข้ามาจากประเทศลาว เข้าประเทศไทยที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ จังหวัดเชียงราย จากนั้นนั่งรถโดยสารหรือ เหมารถ ไปพบกับพรานท้องถิ่นให้ช่วยนำทางให้ เท่าที่รวบรวมได้ ดังนี้

น่าน มกราคม 2552 เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เข้าทำการจับกุมชาวเวียดนามเข้าไปลักลอบโค่นต้นกฤษณา หรือไม้หอม เพื่อเอาแกนที่มีกลิ่นหอมนำไปขายให้นายทุนสกัดเป็นน้ำมันหอมและทำธูปกำยาน ตามออเดอร์ส่งขายยังต่างประเทศได้ราคางาม บริเวณป่าลึกสันเขาบ้านวังน้ำเย็น หมู่ 5 ตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น โดยทำการ จู่โจมเข้าจับกุมได้ 1 คน อีก 2 คน ได้หลบหนีไปได้ เป็นชาวเวียดนาม ทราบชื่อ นายลี บินห์ (LE BINH) อายุ 31 ปี ถือพาสปอร์ตสาธารณรัฐเวียดนาม เดินทางเข้าประเทศไทยด้านจังหวัดอุดรธานี โดยถูกต้อง พร้อมด้วยของกลางไม้กฤษณา 41 ชิ้น น้ำหนัก 27 กิโลกรัม อุปกรณ์มีดและขวานถาก ราคาซื้อขายกิโลกรัมละ 25,000 ในประเทศเกือบ 7 แสนบาท แต่ถ้าหากกลั่นเป็นน้ำห้อมแล้วส่งต่างประเทศราคาเพิ่มอีกเท่าตัวกว่าล้านบาท( เนชั่นทันข่าว)

สุโขทัย 2554 อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ได้จับกุมตัวชาวเีวียดนามเข้ามาลักลอบทำไม้หอม ผู้ตองหา7 คน

กำแพงเพชร 2554 อุทยานแ่ห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ได้จับกุมตัวชาวเีวียดนามเข้ามาลักลอบทำไม้หอม ผู้ตองหาn8 คน

ตาก 27 มิถุนายน2554 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นำได้จับกุมนายฮอง แวน เหงียน ชาวเวียดนามและนายหน่าย แซ่ท้าว ชาวม้ง พร้อมอาวุธปืน ได้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่บริเวณป่ารอยต่อระหว่างทุ่งใหญ่นเรศวรกับ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งขณะนี้ได้ควบคุมตัวอยู่ที่สภอ.อุ้มผาง จ.ตาก โดยทั้ง 2 คนให้การว่าเข้ามาล่าสัตว์และตัดไม้กฤษณา จำนวน 5 คน ซึ่งอีก 3 คน เป็นชาวเวียดนาม 2 คน และชาวม้ง 1 คน หนีไปได้  สำหรับนายหน่าย แซ่ท้าว ชาวม้งอำเภอพบพระจังหวัดตาก ได้รับสารภาพว่าได้ล่าเสือโคร่งในป่าห้วยขาแข้งเมื่อปี 2553 อีกด้วย

น่าน 3 ก.ย.2554- นายสุรพันธุ์  ตรีมงคล  นายอำเภอนาหมื่น จ.น่าน พร้อม นายกฤชทิพ  ชะนิดไทย  ปลัดอาวุโส อ.นาหมื่น  และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมจับกุม นายเหวียง วันลอง  อายุ 32  ปี  ชาวเวียดนาม ขณะร่วมกับพวกอีก 5 คน ที่หลบหนีไปได้ลักลอบโค่นต้นกฤษณา หรือไม้หอม ในป่าลึกของเขตอุทยานฯ ขุนสถาน ม.5 บ้านวังน้ำเย็น ต.เมืองลี อ.นาหมื่น พร้อมของกลางไม้กฤษณา 4 กิโลกรัม ขวานและเหล็กเจาะไม้ นายเหวียง สารภาพว่า รับจ้างจากชาวลาวลักลอบตัดต้นกฤษณาในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยเดินทางเข้ามาประเทศไทย ทางด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย (สำนักข่าวไทย)

ชัยภูมิ 7มกราคม 2555 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ จับกุมชาวเวียดนามได้ 2 คน ขณะลักลอบเข้าไปตัดไม้กฤษณาหรือไม้หอมในป่าภูเขียว ได้จำนวน  12.5 กิโลกรัม ที่บริเวณป่าผาเทวดา หลังการจับกุมผู้ต้องหา นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่ พร้อมกล่าวว่าเรื่องตัดไม้กฤษณาคงเป็นเรื่องบังหน้า แต่น่าจะเป็นขวนการล่าสัตว์ป่ามากกว่า โดยเฉพาะการล่าช้างและเสือ เพราะที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ที่จับชาวเวียดนามได้ เพราะเข้ามาล่าสัตว์ป่า โดยในครั้งนี้กลุ่มชาวเวียดนามได้ร่วมในขบวนการทั้งหมด 10 คน ถูกจับกุมได้แล้ว 6 คน ส่วนที่เหลืออีก 4 คน ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ป่าภูเขียวที่มีพื้นที่เกือบ 1 ล้านไร่ แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะออกมาเองเพราะเสบียงอาหารหมด

แพร่ 30มกราคม 2555 อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จับกุมนายตัน บันเรียน อายุ 43 ปี ชาวเวียดนาม นาเก กองแคน อายุ 41 ปี นายเฉลิม ดวงสุวรรณ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 8 บ้านห้วยหยวก ตำบลป่าแดง อำเภอเมืองแพร่ พร้อมรถยนต์ปิกอัพ นิสสัน สีแดง ทะเบียน บท 5360 แพร่ บรรทุกชิ้นไม้กฤษณา ไม้หวงห้ามราคาแพง น้ำหนัก 120 กิโลกรัม พร้อมวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง กระสุนปืนลูกซอง 4 ลูก กัญชาแห้ง 1 ห่อเล็ก ส่วนคนขับหลบหนีไปได้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวเวียดนามทราบว่าได้เดินทางมาจากสุโขทัย มารับซื้อเนื้อไม้กฤษณาหรือไม้หอมจากชาวบ้าน ในเขตติดต่อจังหวัดแพร่-อุตรดิตถ์ บริเวณบ้านน้ำพร้า ตำบลนางพญา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ (สำนักประชาสัมพันธ์เเพร่)

นายเล วัน ที (LE VAN TRI) ผู้ต้องหาทำไม้หอมชาวเวียดนาม

นายเล วัน ที (LE VAN TRI) ผู้ต้องหาทำไม้หอมชาวเวียดนาม

เลย 13 ส.ค.54 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ จ.เลย และเจ้าหน้าที่ ได้จับกุมแก็งชาวเวียดนามจำนวน 5 คน ที่ลักลอบตัดไม้กฤษณา (ไม้หอม) พร้อมอุปกรณ์   ได้แก่ นายดวน ดิน ทรี(DOAN DINH THI), นายเล วัน ทุย, นายเล วัน พุง(LE VAN PHUNG), นายเหงียน วัน เทียน(NGUYENVANTHIEN) และ นายเล ชวน ยุง เป็นชาวเวียดนาม ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงจับกุม บริเวณ ป่าทับ บ้านนาน้อย ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลย ได้ของกลาง ถุงปุ๋ย 3 ถุง ไม้กฤษณา ที่ตัดแล้ว 1 ท่อน น้ำหนักรวม 63 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ขวาน 2 เล่ม มีด 2 เล่ม สิ่ว 7 อัน โทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย 4 เครื่อง จากการขยายผลสามารถจับได้อีก 1 ราย โดยเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ได้สืบทราบว่ายังมีกลุ่มชาวเวียดนามอีกจำนวนหลายคน ได้ลักลอบตัดไม้กฤษณษา (ไม้หอม) ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จึงได้กระจายกำลังตรวจสอบจนพบชาวเวียดนามจำนวน 2 คน กำลังตัดไม้กฤษณา (ไม้หอม) จึงเข้าจับกุมที่บริเวณป่าห้วยขาสูง ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลย ห่างจากที่ทำการรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงประมาณ 15 ก.ม. สามารถจับได้ 1 คน อีกคนหนีเข้าป่าไปได้ ทราบชื่อผู้ถูกจับกุมว่านายเล วัน ที (LE VAN TRI) อายุ 38 ปี สัญชาติเวียดนาม พร้อมพาสปอร์ตหมายเลข  B1611168 และของกลางไม้กฤษณาจำนวน 10 ก.ก.มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ขวาน 1 เล่ม มีด 1 เล่ม จากการสอบสวนนายเล วัน ที (LE VAN TRI) ให้การว่าตนเองได้เข้าประเทศไทย ทางชายแดนด้านหนองคาย 2-3 คน เมื่อมาถึงก็จะมีนายหน้าคนไทยพามาส่งยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เมื่อได้ไม้กฤษณาตามที่ต้องการ ก็จะโทรให้นายหน้าคนไทยมารับจุดที่มาส่ง นำไปขายยังประเทศลาว กิโลเกือบ 30,000 บาท(www.sueissaraloei.com)

สำหรับทางภาคอีสานจะมีกลุ่มชาวกัมพูชาเข้ามาำทำไม้หอมแถวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว พักหลังโดนปราบปรามหนักพร้อมไม้พะยูง จึงเป็นโอกาสให้ชาวเวียดนามเดินทางเข้ามาทำไม้หอมกันราวกับว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการทำไม้หอม ทั้งที่กลุ่มเวียดนามมืออาชีพเหล่านี้ก็เคยไปหากินแถบมาเลเซีย แิย่งกับคนไทย และคนกัมพูชาหากิน มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มชาวเวียดนามและกลุ่มชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำไม้หอมในประเทศไทย อาจเป็นสาเหตุของการหายไปของเสือในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และพื้นที่คุ้มครองอื่นๆ ทั่ว ประเทศ สมควรที่จะได้มีการประสานงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ไทย ลาว เวียดหนาม มาเลเซีย กัมพูชา ในการทำลายเครือข่ายนักล่าไม้หอมให้หมดไป  ล่าสุดเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงจังหวัดเลยได้ปะทะกับแก๊งค์มอดไม้ชาวเวียดนามซึ่งเข้ามาลักลอบตัดไม้กฤษณา ทำให้ชาวเวียดนามเสียชีวิต 2 ราย รายละเอียดตามข่าวดังนี้

เจ้าหน้าที่ปะทะแก๊งค์มอดไม้ชาวเวียดนามลักลอบตัดไม้กฤษณา 2 ศพ

ขอขอบคุณข่าวและถาพจากhttp://www.sueissaraloei.com

นายบู วันค๊อค Bui Van Quoc แก๊งค์มอดไม้ชาวเวียดนามลักลอบตัดไม้กฤษณาจาก Quang Binh

นายบู วันค๊อค Bui Van Quoc แก๊งค์มอดไม้ชาวเวียดนามลักลอบตัดไม้กฤษณาจาก Quang Binh

นายเหงียน วันเทียน Nguyen Van Trien จาก Quang Binh

นายเหงียน วันเทียน Nguyen Van Trien จาก Quang Binh


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย นายชัยณรงณ์ ดูดดื่ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเคยดำเนินการตรวจยึดจับกุมชาวเวียดนามที่เข้ามาลักลอบเก็บหาของป่า(ไม้กฤษณา)ซึ่งได้เคยแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วตาม ปจว ข้อ 3 คดีอาญาที่ 73/2554 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2554 และ ปจว ข้อ 2 คดีอาญาที่ 170/2554 ลงวันที่14 สิงหาคม 2554 ซึ่งได้จับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวเวียดนามได้แล้วทั้งสิ้นจำนวน 7 คน และสืบทราบว่ายังมีกลุ่มบุคคลชาวเวียดนามเข้ามาแอบลักลอบตัดไม้กฤษณาในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงอย่างต่อเนื่อง
จนเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 คณะเจ้าหน้าที่ประจำเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ประกอบด้วย นาย ไพศาล กองสูงเนิน พนักงานพิทักษ์ป่า นาย อาดุล จุดตะโน พนักงานขับรถยนต์ พร้อมด้วยนายวรรณชัย พิมท์สาลี นายบัวไข ทองปั้น นายสมพงษ์ บุญอิน นายอำนวย ศรีบุรินทร์ เจ้าหน้าที่ประจำเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูหลวง ได้ออกลาดตะเวน บริเวณป่าร่องห้วยกบเน่า ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง พิกัด GPS ที่ 47 Q 0766866 E 1915493 N ได้ยินเสียงต้นไม้ล้มบริเวณดังกล่าว จึงได้วางแผนเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด พบผู้กระทำความผิดประมาณ 6-10 คน กำลังสับไม้อยู่ จึงบอกให้หยุด แต่กลุ่มผู้กระทำความผิด กลับยิงปืนสวนมา ทำให้เกิดการยิงต่อสู้กัน สักพักเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย จากนั้นจึงเข้าตรวจสอบพบผู้กระทำความผิดพบเสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อต่อมว่านายบู วันค๊อค อายุ 40 ปี โดนยิงเข้าที่คอ 1 นัด สีข้าง 1 นัด โดย ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบศพ อีกศพชื่อนายเหงียน วันเทียน อายุ 30 ปี โดนยิงที่หัวกระจุย สมองไหลยิ้ม ทั้งสองคนเป็น ชาวเวียดนาม ดูจากหลักฐานพาสปอร์ตพบว่าทั้ง 2 เดินทางมาจาก สปป.ลาว ผ่านชายแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว ที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนคาบิน ตกอยู่ 4 ปลอก ถุงปุ๋ย 5 ถุง มีไม้กฤษณาที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และต้นไม้กฤษณาที่โดนตัดไปแล้ว 4 ต้น ขนาด 15-20 เมตร อายุประมาณ 30 ปี ขวาน 4 เล่ม มีด 4 เล่ม ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้ คาดว่าอาจมีผู้กระทำความผิดได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้น พ.ต.ท.ประสาน พรศรี พนักงานสอบสวนสภ.ภูเรือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อัยการ ฝ่ายปกครอง อ.ภูเรือ แพทย์เวร ร.พ.ภูเรือ เข้าตรวจที่เกิดเหตุ โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิดดังนี้
1.ฐานเก็บหาของป่าหวงห้าม หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ของป่าหวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.ป่าไม้
พุทธศักราช 2484 มาตรา 29
2.ฐานมีของป่าหวงห้ามเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 29 ทวิ
3.ฐานเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535มาตรา 37
4.ฐานตัด โค่น แผ้วถาง เผา หรือทำลาย ต้นไม้หรือพฤกษชาติอื่นโดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 38

รวบรวมโดย พลวีร์ บูชากียรติ

polawee@hotmail.com

18 กุมภาพันธ์ 2555