หลักสูตรสืบสวนดำเนินคดีด้านป่าไม้และสัตว์ป่า
ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในประเทศไทยได้ถูกคุกคามบุกรุก แผ้วถาง และทำลายลงเป็นจำนวนมากและมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการลักลอบล่าและค้าสัตว์ป่าลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกแผ้วถางป่าอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะได้ดำเนินการปราบปรามจับกุมอย่างเข้มงวดตลอดมาแล้วก็ตาม ก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีให้ได้ผลอย่างเต็มที่ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้ไม่สัมฤทธิ์ผล คือ งานด้านการข่าว และงานด้านการสืบสวนยังขาดประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับด้านการสืบสวนและการหาข่าว ประกอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ได้มีข้อสั่งการเมื่อครั้งมีการประชุม เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2552 ณ ห้องประชุมส่วนจัดการต้นน้ำ (ห้วยแก้ว) จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งและมลพิษหมอกควัน ดังนี้ “การจับกุมคดีป่าไม้ ควรให้ความสำคัญกับการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาโดยเฉพาะนายทุนไม่ใช่แค่จับกุมแต่ไม่มีผู้ต้องหา ทั้งนี้ให้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้จัดอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีด้านป่าไม้ขึ้น”
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโดยศูนย์ฝึกอบรมที่ 5 (ตาก)จึงได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิจารณาจัดทำหลักสูตรสืบสวนดำเนินคดีด้านป่าไม้และสัตว์ป่าขึ้น เพื่อพัฒนาบุคลากรในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้มากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่การดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าให้คงความอุดมสมบูรณ์ และเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างยั่งยืน
เนื้อหาการฝึกอบรมประกอบด้วย กฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ การจับกุมและการเขียนบันทึกจับกุมในคดีป่าไม้ หลักการสืบสวนสอบสวน/การวิเคราะห์ข้อมูล เทคนิคการสืบสวน ระบบงานการข่าว นิติวิทยาศาสตร์ การตรวจและรักษาสถานที่เกิดเหตุ การเก็บและรวบรวมวัตถุพยานประเภทต่างๆ การเจรจาต่อรองในการแก้ไขสถานการณ์ ฝึกปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและสถานที่ ฝึกปฏิบัติการรอดพ้นภยันตรายของเจ้าหน้าที่ (Officer Survival Technique) ฝึกปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุม บุคคล สถานที่ ยานพาหนะ ฝึกปฏิบัติการบำรุง รักษา ดูแล และยิงปืนในสถานการณ์ต่างๆ (ปืนพก, ปืน HK, ปืนลูกซอง 5 นัด) ฯลฯ นับเป็นก้าวสำคัญของการปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นงานที่ยากแิิและท้าทายในการปฏิบัติ แต่หากมีการทุ่มกำลัง งบประมาณและเทคโนโลยีอย่างจริงจัง รวมกับความร่วมมือของทุกฝ่ายทุกคนที่เกี่ยวข้องก็คงไม่ยากเกินกำลัง